โดยการทำงานเหล่านี้ถ้าเป็นแบบพื้นฐานก็จะทำงานกันเป็นขั้นตอนเรียงตัวไปเรื่อยๆ
แต่ในหลักความเป็นไปได้คือการทำงานในแต่ละส่วนนั้นค่อนข้างจะเป็นอิสระออกจากกัน
จึงได้มีการจับแยกกันให้ทำงานขนานกันของแต่ละส่วนไปได้ หลักการนี้เรียกว่า pipeline
เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง
(ILP:
Instruction Level Parallelism)
โดยข้อมูลที่เป็นผลจากการคำนวณของชุดก่อนหน้าจะถูกส่งกลับไปให้ชุดคำสั่งที่ตามมาในช่องทางพิเศษภายในหน่วยประมวลผลเองการทำงานแบบขนานนี้สามารถทำให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกคือเพิ่มการทำงานแต่ละส่วนออกเป็นส่วนที่เหมือนกันในทุกกลุ่มแต่ให้ทำงานคนละสายชุดคำสั่งกัน
วิธีการนี้เรียกว่าการทำหน่วยประมวลผลให้เป็น superscalar
วิธีการนี้ทำให้มีหลายๆ
ชุดคำสั่งทำงานได้ในขณะเดียวกัน โดยงานหนักของ superscalar
อยู่ที่ส่วนดึงชุดคำสั่งออกมา
(Dispatcher)
เพราะส่วนนี้ต้องตัดสินใจได้ว่าชุดคำสั่งอันไหนสามารถทำการประมวลผลแบบขนานได้
หลักการนี้ก็เป็นการทำการประมวลผลแบบขนานในระดับการไหลของแต่ละคำสั่ง(ILP: Instruction Level Parallelism) เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น